เชื่อว่าเกมเมอร์หลายคนคงรู้จักเกมจากผู้พัฒนา Vigil Game ค่ายน้องใหม่ที่สามารถแจ้งเกิดอย่างเจิดจรัสด้วยการลงมาจุติของ War หนึ่งใน 4 Horse Men ที่จุติลงมาที่โลกแบบผิดธรรมชาติ ใช่ครับ เรากำลังจะพูดถึงเกม Darksiders II ซึ่งเพิ่งวางจำหน่ายไปเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งตัวเอกของภาคนี้ก็เป็น 1 ใน 4 จตุรอาชาเช่นเดียวกับ War ตัวเอกในภาคที่แล้วนั่นก็คือ Death พี่ใหญ่แห่งจตุรอาชาทั้งมวล ที่เริ่มออกเดินทางค้นหาความจริงเกี่ยวกับเรื่องผิดปกติในครั้งนี้

ระบบของเกมนั้นเรียกได้ว่านำความสนุกสนานของภาคแรกมายกระดับใส่ลูกเล่นอะไรใหม่ๆ เข้าไป โดยเฉพาะการเพิ่มความเป็น RPG ให้กับเกม โดยหลักๆ แล้ว Darksiders 2 นั้นมีระบบต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นจากภาคแรกดังนี้

เพิ่มระบบ Equipment
จุดเด่นที่แตกต่างจากภาคก่อนอย่างสิ้นเชิงก็คือการเพิ่มระบบ Equipment ไม่ว่าจะเป็นอาวุธหลัก อาวุธรอง ไปจนถึงเครื่องแต่งกายทุกส่วนโดยเราสามารถหา Equipment ใหม่ๆ ได้จากการดรอปจากมอนสเตอร์ หรือหีบสมบัติในดันเจี้ยน นอกจากจะเพิ่มดาเมจ หรือพลังป้องกันแล้วยังมีสถานะพิเศษอื่นๆ เช่น พลังโจมตีธาตุไฟ, โจมตีแล้วดูดเลือด เป็นต้น คุณสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนเพราะในภาคนี้จะมีการแสดงตัวเลข Damage ให้เห็นกันไปเลยว่าเราโจมตีได้แรงขนาดไหน

ระบบเลเวล และ Skill
จั่วหัวไว้อย่างดิบดีว่าภาคนี้เพิ่มความเป็น RPG แล้วแบบนี้จะไม่มี Level ได้อย่างไร สำหรับภาคนี้การสังหารศัตรูทุกๆ ตัว จะได้รับค่าประสบการณ์ EXP ซึ่งถ้า EXP เพิ่มขึ้นถึงระดับหนึ่งแล้ว Death จะเพิ่มระดับ Level ขึ้น และได้รับ Skill Point เพื่อนำมาอัพสกิลที่ต้องการใช้ ซึ่ง Skill ของ Death นั้นแบ่งออกเป็น 2 สาย ก็คือ Harbringer ที่เน้นบู๊สู้แบบเนื้อๆ และอีกสายคือ Necromancer ที่เน้นการอัญเชิญภูตผีปีศาจบริวารของ Death มาช่วยต่อสู้ นับเป็นความหลากหลายในการเล่นที่คุณสามารถเลือกเองได้

War & Ruin
ขึ้นชื่อว่า Horseman จะไม่มีม้าได้อย่างไร ในภาคที่แล้วม้าคู่ใจของ War นั้นมีชื่อว่า Ruin ส่วนม้าของ Death นั้นมีชื่อว่า Despair ถ้า War (สงคราม) คู่กับ Ruin (ความพินาศ) Death (ความตาย) ก็ต้องคู่กับ Despair (ความสิ้นหวัง) เป็นธรรมดา นอกจากนี้ยังมีอีกาคู่ใจอีกหนึ่งหน่อที่คอยนำทาง Death ไปยังเป้าหมายต่อไป อีกาตัวนี้มีชื่อว่า Dust โดยหน้าที่ของมันก็คือการบินนำเราไปยังสถานที่ต่อไปในภารกิจนั่นเอง

บทสนทนาระหว่าง NPC
ในภาคนี้เราสามารถเลือกคุยกับ NPC ในหัวข้อต่างๆ ที่เราจำเป็นต้องรู้ได้เหมือนกับการเล่นเกม RPG เลยทีเดียว แต่สุดท้ายก็ต้องเลือกคุยทุกหัวข้อ ซึ่งไม่รู้จะมีมาให้เลือกทำไม แรกๆ อาจจะดูแปลกใหม่ แต่นานๆ ไปจะเริ่มน่ารำคาญ นอกจาก NPC จะให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์แล้ว เรายังสามารถเลือกซื้ออุปกรณ์สวมใส่รวมถึงยา และเรียนทักษะต่างๆ จาก เหล่า NPC ได้อีกด้วย

แอคชั่นที่โลดโผนกว่าเดิม
หากเทียบกับ War ที่ดูเทอะทะ ผมว่าแอ็คชั่นตะลุยดันเจี้ยนของ Death นั้นมีความโลดโผนและพลิ้วไหวยิ่งกว่า ทั้งฉากปีนป่าย ใต่กำแพง ซึ่งมีมากมายจนอดสงสัยไม่ได้ว่านี่ Horseman หรือลิงกันแน่ แต่โดยรวมทำออกมาได้ตื่นเต้น ไม่ยาก และไม่ง่ายจนเกินไป

ทั้งหมดนี้คือรีวิวคร่าวๆ ของ Darksiders II : Death Live ที่มีลูกเล่นใหม่เพิ่มขึ้นมากมาย แม้จะยังมีระบบอีกมากมายที่ยังไม่ได้เอ่ยถึงอย่างเช่น Online Content หรือการทำคอมโบ เป็นต้น แม้บางอย่างที่เพิ่มขึ้นมาอาจจะดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่ก็ยังคงความเป็น Darksiders เอาไว้ได้อย่างลงตัว ส่งท้ายบทความรีวิวสั้นๆ ด้วยภาพสกรีนช็อตจากเกมที่ผมเก็บมาฝากกันครับ